พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเปลี่ยนเครื่องทรงฤดูหนาวเป็นเครื่องทรงฤดูร้อน

 วันที่ 7 มีนาคม 2566 สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินไปในงานปิดภาคเรียน ประจำปีการศึกษา 2565 ณ โรงเรียนชัยพิทยพัฒน์

 เสด็จพระราชดำเนินไปในการพระราชพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศลมาฆบูชา พุทธศักราช ๒๕๖๖

 6 มีนาคม 2502 เป็นวันที่พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เสด็จออกเดินทางประกอบพระราชกรณียกิจในการเยี่ยมพสกนิกรทางภาคใต้ครั้งแรก ระหว่างวันที่ 6 - 26 มีนาคม พ.ศ.2502

 ด้วย สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี จะเสด็จเยือนรัฐอิสราเอล ระหว่างวันที่ 4 ถึงวันที่ 17 มีนาคม พุทธศักราช 2566

 สารคดีเชิงข่าว สืบสาน สร้างสุข ปวงประชา : พื้นที่สมบูรณ์ พื้นถิ่นมีสุข

 สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงติดตามการดำเนินงานโครงการพัฒนาเด็กและเยาวชน ตามพระราชดำริ ของโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน ที่จังหวัดนครพนม ผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์

 สารคดีเกษตรมิติใหม่ ไร่นาสวนผสม ตามแนวเกษตรทฤษฎีใหม่ สู่ความยั่งยืนในอาชีพ

 “ชาติบ้านเมือง คือ ชีวิต เลือดเนื้อ ฯ"

 พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๗ ทรงสละราชสมบัติ เมื่อวันที่ ๒ มีนาคม ๒๔๗๗ เวลา ๑๓ นาฬิกา ๔๕ นาที

กิจกรรมเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์
หน้า  17  คลิ๊กหมายเลขหน้า เพื่อไปยังหน้าที่ท่านต้องการ
131415161718192021

ภาพกิจกรรมพระราชกรณียกิจ ทั้งหมด

     พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๗ ทรงสละราชสมบัติ เมื่อวันที่ ๒ มีนาคม ๒๔๗๗ เวลา ๑๓ นาฬิกา ๔๕ นาที
     “…ข้าพเจ้าเต็มใจที่จะสละอำนาจอันเป็นของข้าพเจ้าอยู่เดิมให้แก่ราษฎรโดยทั่วไป แต่ข้าพเจ้าไม่ยินยอมยกอำนาจทั้งหลายของข้าพเจ้าให้แก่ผู้ใด คณะใด โดยเฉพาะเพื่อใช้อำนาจนั้นโดยสิทธิ์ขาดและโดยไม่ฟังเสียงอันแท้จริงของประชาราษฎร

บัดนี้ข้าพเจ้าเห็นว่าความประสงค์ของข้าพเจ้าที่จะให้ราษฎรมีสิทธิ์ออกเสียงในนโยบายของประเทศโดยแท้จริงไม่เป็นผลสำเร็จและเมื่อข้าพเจ้ารู้สึกว่าบัดนี้เป็นอันหมดหนทางที่ข้าพเจ้าจะช่วยเหลือหรือให้ความคุ้มครองแก่ประชาชนได้ต่อไปแล้ว ข้าพเจ้าจึงขอสละราชสมบัติและออกจากตำแหน่งพระมหากษัตริย์แต่บัดนี้เป็นต้นไป ข้าพเจ้าขอสละสิทธิของข้าพเจ้าทั้งปวง ซึ่งเป็นของข้าพเจ้าในฐานที่เป็นพระมหากษัตริย์ แต่ข้าพเจ้าสงวนไว้ซึ่งสิทธิทั้งปวงอันเป็นของข้าพเจ้าแต่เดิมมาก่อนที่ข้าพเจ้าได้รับราชสมบัติสืบสันตติวงศ์…”

พระราชหัตถเลขาสละราชสมบัติบางส่วนของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาประชาธิปก พระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๗ ในพระราชหัตถเลขา ลงวันที่ ๒ มีนาคม พุทธศักราช ๒๔๗๗ เวลา ๑๓ นาฬิกา ๔๕ นาที

หลังจากมีพระราชหัตถเลขาสละราชสมบัติ พระองค์ทรงกลับไปใช้พระนามและพระราชอิสริยยศเดิม คือ “สมเด็จเจ้าฟ้าประชาธิปกศักดิเดชน์ กรมหลวงสุโขทัยธรรมราชา”

พระองค์ไม่ทรงตั้งองค์รัชทายาท เพื่อพระราชทานวโรกาสให้รัฐบาลและสภาผู้แทนราษฎรเป็นผู้คัดเลือกพระมหากษัตริย์พระองค์ใหม่เอง คณะรัฐมนตรีโดยความเห็นชอบจากสภาผู้แทนราษฎรจึงได้อัญเชิญเสด็จ “พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอานันทมหิดล” ขณะนั้นมีพระชนมพรรษา ๙ พรรษา เป็นพระโอรสในสมเด็จฯ เจ้าฟ้ามหิดลอดุลเดช กรมหลวงสงขลานครินทร์ และพระราชนัดดาในสมเด็จฯ พระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า

ซึ่งพระองค์เป็นเจ้านายเชื้อพระบรมวงศ์พระองค์ที่ ๑ ในลำดับพระราชสันตติวงศ์แห่งกฎมณเฑียรบาลว่าด้วยการสืบราชสันตติวงศ์ พุทธศักราช ๒๔๖๗ ขึ้นทรงราชย์เป็นสมเด็๋จพระเจ้าอยู่หัวสืบพระราชสันตติวงศ์ ตั้งแต่วันที่ ๒ มีนาคม พุทธศักราช ๒๔๗๗ สืบต่อไป

รวมเวลาในการครองราชย์ได้ ๙ ปี ขณะมีพระชนมพรรษาได้ ๔๑ พรรษา และเสด็จไปประทับที่กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ตราบสวรรคต

ป.ล. ปีพุทธศักราช ๒๔๗๗ ที่ใช้อ้างอิงนั้น เป็นการนับศักราชแบบเก่า ที่เอาวันที่ ๑ เมษายน เป็นวันขึ้นปีใหม่ บางตำราอาจกล่าวว่า รัชกาลที่ ๗ ทรงสละราชสมบัติ พุทธศักราช ๒๔๗๘ แบบนี้ก็ถือว่าถูกเช่นเดียวกัน

ข้อมูลจาก สิ่งที่ข้าพเจ้าพบเห็น โดย ม.จ.พูนพิศมัย ดิสกุล, ประชาธิปก พระบารมีปกเกล้า



ติดตามข่าวสารและกิจกรรมเทิดทูนสถาบันได้ที่
Website : http://www.phralan.in.th
Facebook: https://www.facebook.com/phralanofficial/