สมัยเด็ก ๆ ใครๆก็คงเคยอ่านหนังสือสำหรับเด็ก ว่าพระราชา จะต้องมีปราสาท 4 ฤดู สำหรับเอาไว้ประทับพักผ่อน
พระราชาของประเทศไทยก็เช่นกันที่มีปราสาท 4 ฤดูสำหรับแปรพระราชฐานไปประทับ สิงหา-กันยา ที่จังหวัดนราธิวาสในภาคใต้
ต.ค. -พ.ย ที่สกลนครภาคอิสาน
ธ.ค -มี.ค ที่เชียงใหม่ภาคเหนือ
พอถึง เม.ย ก็มักจะไปประทับที่ วังไกลกังวล หัวหิน ก็มีบางคนคิดและเชื่อเอาจริง ๆ ว่า ชีวิตในปราสาทสี่ฤดูนี่คงแสนสำราญ แต่ความจริงแล้ว พระราชาท่านเปลี่ยนที่ประทับเพื่อไปทรงงาน ตามช่วงเวลาที่พื้นที่ตามภูมิคาค จะไปไหนมาไหน ลุยฝุ่นดีกว่าลุยโคลน
ยิ่งเดือนเมษายนด้วย..ร้อนไหมล่ะ?
พระรูปที่นำมาให้ชมเป็นบ่ายวันหนึ่งในเดือน เม.ย ที่ บางไทร อยุธยา ซึ่งมีพระราชวังอยู่อีกแห่งหนึ่ง คือ วังบางปะอิน ภาพทั้งหมดไม่มีพระราชาเลยเพราะเมื่อเสด็จฯ ลงจากเรือยนต์พระที่นั่ง ก็ทรงพระดำเนิน ไปกับเจ้าหน้าที่กรมชลประทานเพื่อหาน้ำมาให้เกษตรกร บางไทรใช้ เพราะราษฎรที่บางไทรนั้นลำบากเหลือกำลัง เรียกว่า ไม่น้ำท่วมก็ฝนแล้ง ช่างภาพ เก็บภาพอยู่กับขบวนเสด็จฯของสมเด็จฯ ที่แสนจะโกลาหลไปด้วยผู้ป่วยเจ็บหลายวัย ที่พอรู้ว่าพระราชาเสด็จฯ มาเยี่ยม ก็พากันหอบลูกจูงหลานมาเฝ้า เมื่อพอมีเวลาได้ถอนหายใจ และกวาดสายตาดูภาพตรงหน้า .. ก็สามารถบอกตัวเองได้ว่า ตลอดระยะเวลาหลาย ๆ ปีที่ตามเสด็จฯ ไปปราสาททั้ง 4 ฤดู ของพระราชา ถึงผู้คนจะต่างศาสนา พูดจาต่างสำเนียง .. แต่สิ่งหนึ่งที่ไม่เคยเปลี่ยนแปลงไปเลย คือความรัก ความผูกพันระหว่างพระราชา พระราชินี และเจ้าหญิงกับปวงราษฎรทั้งหลาย ที่จะยังคงแน่นแฟ้น และไม่มีวันจืดจาง ..
และขอให้เชื่อเถอะ ว่าสิ่งนี้ จะเชื่อมโยงข้ามกาลเวลา .. ข้ามศตวรรษ ไปตราบนิรันดร์
#เรื่องเล่าข้างโต๊ะทรงงาน
Cr. Napan sevikul
ช่างภาพผู้ติดตามถวายงาน
|